ทำไมต้องถามงบประมาณลูกค้าในการตกแต่งภายในก่อนคุยเรื่องอื่น?

เพื่อให้ทางบริษัทรู้ว่า ปริมาณงานกับความต้องการของค้าเป็นยังไง กับงบที่ลูกค้าเตรียมไว้เพียงพอมั้ย และสามารถทำอะไรได้บ้าง และวัสดุที่ลูกค้าต้องการ พอต่องบประมาณของวัสดุมั้ย 

คุณกมลคิดว่างบประมาณมีผลต่อการออกแบบภายในมากน้อยแค่ไหน? 

คุณกมลคิดว่า “งบประมาณมีผลต่อการออกแบบค่อนข้างมาก เพราะว่างบประมาณมาก การออกแบบก็จะได้ปริมาณมาก และได้คุณภาพมาก เพราะสามารถใช้วัสดุที่ดีและมีคุณภาพสูงในการผลิตงานออกแบบได้ และยังสามารถทำรูปแบบงานดีไซน์ได้อย่างเต็มที่” เพราะการจำกัดเรื่องงบประมาณเหมือนการจำกัดดีไซน์และวัสดุต่างๆ

ในการตกแต่งภายในบ้าน 1 หลังควรเตรียมงบประมาณประมาณเท่าไหร่?

ขึ้นอยู่กับรูปแบบของงาน ว่าเป็นงานสไตลไหน ถ้าโมเดิร์น ก็จะงบน้อยกว่าลัคชัวรี่ โดยเฉลี่ยราคามีตั้งแต่ 6,000-30,000 ต่อตารางเมตร แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องดูสภาพหน้างานเพื่อประเมิณอีกที ว่ามีส่วนไหนตกแต่งไปบ้าง มีพื้นเดิมฝ้าเดิมไหมหรือไม่มีอะไรมาเลยเป็นโซนโล่งก็จะคนละราคากัน ถ้าลูกค้ามีงานระบบอยู่ข้างแล้ว แค่ไปเติมการดีไซน์จากส่วนที่มีอยู่ ราคาก็จะลดหลั่นลงไป

คำแนะนำสำหรับลูกค้าที่มีงบน้อย-ปานกลางแต่ต้องการตกแต่งภายในตามงบ?

คุณกมลคิดว่าลูกค้าที่งบน้อย “สามารถเข้ามาปรึกษาทางบริษัทได้ เพราะทางบริษัทจะมีการคุมงบให้ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ”  ไม่ให้แบบออกมาเกินความจำเป็น แต่เหมาะสมต่อการใช้งาน ให้พอเหมาะกับงบ และควบคุมวัสดุเลือกวัสดุให้ดูดีและมีความเหมาะสมได้ เป็นการควบคุมทั้งงานดีไซน์และวัสดุไปพร้อมๆกันตั้งแต่เริ่มงาน เพื่อให้งานก่อสร้างได้วัสดุที่ตรงตามดีไซน์และงบประมาณไม่บานปลาย เพราะถ้าบริษัทออกแบบอย่างเดียวอาจจะเน้นดีไซน์เป็นหลักแต่ไม่ได้คุมในส่วนของวัสดุ การเลือกบริษัทที่ออกแบบรวมถึงรับเหมาด้วยถือเป็นทางออกที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าที่มีงบน้อย-ปานกลาง

จะรู้ได้อย่างไรว่างบประมาณกับเนื้องานมีความสมดุลกัน

ต้องมีการเสนอราคาให้กับลูกค้าโดยการทำ boq และทำราคาเสนอลูกค้าอย่างชัดเจน ว่าวัสดุไหนแพงวัสดุไหนถูก และชี้แจงกับลูกค้าให้เกิดความชัดเจนและเข้าใจตรงกัน